Skip to main content

เลือกเครื่องนึ่งฆ่าเชื้อให้ตรงใจ เครื่องนึ่งฆ่าเชื้อแนวตั้ง vs แนวนอน แบบไหนตอบโจทย์การใช้งานที่สุดสำหรับคุณ?

ในกระบวนการฆ่าเชื้อ (Sterilization) การเลือกใช้ ‘เครื่องนึ่งฆ่าเชื้อ’ (Autoclave) ที่เหมาะสมถือเป็นหัวใจสำคัญในการรักษามาตรฐานความปลอดภัย และเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานภายในห้องปฏิบัติการ

เครื่องนึ่งฆ่าเชื้อ (Autoclave) จะทำหน้าที่ในการกำจัดเชื้อจุลชีพ ทั้งแบคทีเรีย เชื้อรา และสปอร์ ด้วยไอน้ำแรงดันสูง เพื่อให้มั่นใจว่าวัสดุ อุปกรณ์ หรือของเหลวที่ผ่านกระบวนการนี้จะปลอดเชื้อ พร้อมใช้งานในขั้นตอนต่อไป โดยไม่เสี่ยงต่อการปนเปื้อน

ในปัจจุบัน เครื่องนึ่งฆ่าเชื้อที่นิยมใช้ในห้องปฏิบัติการกันมากที่สุดมีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่

  • เครื่องนึ่งฆ่าเชื้อแนวตั้ง (Vertical Autoclave)
  • เครื่องนึ่งฆ่าเชื้อแนวนอนแบบตั้งโต๊ะ (Benchtop Horizontal Autoclave)

เครื่องทั้งสองแบบนี้ ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละสภาพแวดล้อมการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นในห้องปฏิบัติการ โรงพยาบาล หรือศูนย์วิจัย ซึ่งในบทความนี้ เราจะพาทุกท่านมาทำความเข้าใจถึงความแตกต่างด้านโครงสร้างและการใช้งาน, ข้อดีและข้อจำกัดของเครื่องนึ่งฆ่าเชื้อแต่ละประเภท รวมถึงแนวทางในการเลือกเครื่องนึ่งฆ่าเชื้อให้เหมาะสมกับลักษณะงานของคุณ

เครื่องนึ่งฆ่าเชื้อแนวตั้ง
(Vertical Autoclave)

เครื่องนึ่งฆ่าเชื้อแนวนอนแบบตั้งโต๊ะ
(Benchtop Horizontal Autoclave)
ทิศทางการบรรจุวัสดุ –  เครื่องได้รับการออกแบบให้ใส่วัสดุจากด้านบน (Top Loading)
–  เป็นห้องฆ่าเชื้อทรงกระบอกตั้งขึ้นด้านบน
–  เครื่องได้รับการออกแบบให้ใส่วัสดุจากด้านหน้า (Front Loading)
–  เป็นห้องฆ่าเชื้อแบบแนวนอน
ขนาดและพื้นที่ติดตั้ง –  ต้องการพื้นที่ในแนวสูงที่มากกว่า แต่ใช้พื้นที่พื้นน้อยกว่า – สามารถวางบนโต๊ะในห้องปฏิบัติการได้ เหมาะกับสถานที่ที่มีพื้นที่จำกัด
การใช้งาน –  เหมาะสำหรับงานที่ต้องฆ่าเชื้อวัสดุปริมาณมากในรอบเดียว เช่น ขวดทรงสูง วัสดุเพาะเลี้ยงเชื้อ หรือของเหลวในปริมาณมาก – เหมาะสำหรับงานที่ฆ่าเชื้อวัสดุหรือตัวอย่างที่มีปริมาณน้อยถึงปานกลาง

ข้อดีและข้อจำกัดของเครื่องนึ่งฆ่าเชื้อแต่ละประเภท

เครื่องนึ่งฆ่าเชื้อแนวตั้ง
(Vertical Autoclave)
เครื่องนึ่งฆ่าเชื้อแนวนอนแบบตั้งโต๊ะ
(Benchtop Horizontal Autoclave)
ข้อดี –  มีความจุขนาดใหญ่
–  สามารถฆ่าเชื้อวัสดุได้ในปริมาณมาก
–  ใช้พื้นที่พื้นน้อย แม้จะสูงแต่สามารถจัดวางให้ประหยัดพื้นที่ได้ดี
–  มีขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับพื้นที่จำกัด
–  สามารถวางได้บนโต๊ะหรือเคาน์เตอร์ได้
–  บรรจุวัสดุได้สะดวกกว่าด้วยระบบเปิดด้านหน้า ช่วยลดการยกของหนัก
–  รอบการฆ่าเชื้อที่รวดเร็ว ประหยัดเวลา
ข้อจำกัด –  ต้องยกของขึ้นจากด้านบน ซึ่งอาจไม่สะดวก หากวัสดุมีน้ำหนักมาก
–  ใช้เวลาในการจัดเตรียมและขนย้ายวัสดุมากกว่าเครื่องแบบแนวนอน
–  มีความจุน้อยกว่า บางครั้งไม่สามารถใช้พื้นที่ในห้องนึ่งฆ่าเชื้อได้อย่างเต็มที่
–  ไม่เหมาะกับการฆ่าเชื้ออุปกรณ์ขนาดใหญ่ หรือของเหลวปริมาณมาก

 

ปัจจัยในการพิจารณาเครื่องนึ่งฆ่าเชื้อที่เหมาะกับงาน

  1. ปริมาณวัสดุที่ต้องฆ่าเชื้อในแต่ละรอบ
  • รองรับความจุสูง และสามารถทำงานได้ต่อเนื่องในรอบเดียว –> เครื่องนึ่งฆ่าเชื้อแนวตั้ง
  • ฆ่าเชื้ออุปกรณ์จำนวนน้อย ต้องการความสะดวกและรวดเร็ว –> เครื่องนึ่งฆ่าเชื้อแนวนอนแบบตั้งโต๊ะ
  1. พื้นที่ติดตั้งในห้องปฏิบัติการ
  • ห้องมีพื้นที่แนวราบจำกัด แต่มีพื้นที่แนวสูงมากพอ –> เครื่องนึ่งฆ่าเชื้อแนวตั้ง
  • ห้องมีพื้นที่บนโต๊ะปฏิบัติงานหรือเคาน์เตอร์ว่าง –> เครื่องนึ่งฆ่าเชื้อแนวนอนแบบตั้งโต๊ะ

*** ควรตรวจสอบระยะเปิดฝา (ด้านบน/ด้านหน้า) และตำแหน่งการระบายน้ำ เพื่อให้ติดตั้งได้สะดวกที่สุด ***

  1. ประเภทของงานที่ต้องใช้
  • งานวิจัยทางจุลชีววิทยา, เคมี, การเพาะเลี้ยงเซลล์ –> เครื่องนึ่งฆ่าเชื้อแนวตั้ง
  • งานคลินิกทั่วไป, ทันตกรรม, ห้องปฏิบัติการขนาดเล็ก –> เครื่องนึ่งฆ่าเชื้อแนวนอนแบบตั้งโต๊ะ
  1. งบประมาณและค่าบำรุงรักษา

*** เครื่องควรได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อยืดอายุการใช้งานและคงประสิทธิภาพสูงสุด ***
(เช่น การตรวจสอบซีล ฝา และระบบระบายน้ำ เป็นต้น)

ดังนั้น การเลือกเครื่องนึ่งฆ่าเชื้อจึงไม่มีแบบไหน “ดีที่สุดสำหรับทุกคน” แต่มีแบบที่ “เหมาะที่สุดสำหรับงานของคุณ”

ทั้งสองแบบต่างให้ผลลัพธ์การฆ่าเชื้อที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ เพียงแต่ตอบโจทย์ต่างกันตามลักษณะงานที่ต่างกัน

หากคุณยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกเครื่องแบบไหนดี พวกเรา CG Scientific พร้อมให้คำปรึกษา และช่วยเหลือคุณให้สามารถเลือกเครื่องมือที่เหมาะที่สุดสำหรับคุณ เพราะการเลือกอุปกรณ์ที่เหมาะสม ไม่เพียงแค่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แต่ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับห้องปฏิบัติการของคุณ

 

Leave a Reply